ทาง Infinix ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนตัวใหม่ล่าสุดคือ Infinix Zero 5G 2023 เป็นตัวที่ถูกพัฒนาต่อยอดจากรุ่นเก่าที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมานี้เองซึ่งรุ่นที่แล้วก็ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยการได้รับความนิยม ซึ่งขณะนี้ทางค่ายได้พัฒนาในภายใต้คอนเซป POWER UPGRADE เนื่องด้วยมีการเพิ่มสเปกในส่วนของ ชิปเซตเป็นตัวใหม่คือ Dimensity 1080
และเพิ่มเติมไปในส่วนของตัวเก็บข้อมูลเยอะขึ้นที่ 256GB และอัพเกรดในส่วนของเซ็นเซอร์กล้องถ่ายภาพให้มีความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นการอัพเกรดในส่วนของสเปกที่จัดมาให้นี้ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะจะมาด้วยในราคาที่จ่ายเงิน 10,000 บาท มีตังถอนกลับบ้านแน่นอน ผลิตสีตัวเครื่องออกมาให้ได้เลือกถึง 3 สีได้แก่ CORAL ORANGE สีส้ม / PEARLY WHITE สีขาว
และ SUBMARINER BLACK สีดำ มาดูในภายในกล่องกันว่าเขามีอะไรให้มาบ้าง เปิดกล่องเข้ามาจะเจอตัวเครื่อง Infinix Zero 5G 2023 ภายในจะแถมในส่วนของเคส TPU ต่อมาเป็นสายชาร์จ USB Type-C และสุดท้าย อะแดปเตอร์ (หัวชาร์จ)รองรับชาร์จเร็วสูงสุดที่ 33W และสุดท้ายตัวเครื่องได้ติดฟิล์มกันรอยพร้อมใช้งานแล้วมาจากโรงงานเลย
ดีไซน์ Design / จอแสดงผล Display
การออกแบบดีไซน์ตัวเครื่องจะเป็นการคิดออกแบบใหม่ทั้งหมดให้ไปในแนวทรงอนาคตที่จะดูเด่นด้วยตัวเครื่องที่มีมิติ หน้าจอเป็นแบบโค้ง Curved 2.5D เป็น พาเนล IPS Ultra Smooth Display ให้ความละเอียดระดับ FULLHD+ ซึ่งให้มาขนาดใหญ่ที่ 6.78 นิ้ว มาพร้อมด้วยค่าอัตรารีเฟรชเรทสูงสุดถึง 120Hz (สามารถปรับตามความต้องการได้คือ 60Hz กับค่า 120Hz และค่าแบบอัตโนมัติ
อัตราความไวต่อการตอบสนองการสัมผัสทัสกรีนสูงถึง 240Hz ในส่วนของระบบเสียงค่อนข้างน่าเสียดายเพราะเขาให้ลำโพงมาเพียงแค่ข้างเดียวแต่จะรองรับเสียง DTS ในส่วนของไมโครโฟนตัดเสียงถูกติดตั้งไว้ในส่วนของด้านบนเครื่องและมีข้อความ Powered by Infinix มาพร้อมฟีเจอร์ป้องกันความปลอดภัยด้วยการปลดล็อคสแกนลายนิ้วมือในตัวเครื่อง มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรมาให้ด้วย
กล้องถ่ายภาพ Camera
Infinix Zero 5G 2023 ให้กล้องหน้า(เซลฟี่)ให้ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มาพร้อมไฟแฟลชคู่ (Dual LED) ต่อมากล้องหลังให้เลนส์มาทั้งหมด 3 ตัวได้แก่ เลนส์หลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (ISOCELL JN1) ซึ่งจะเป็นค่าความละเอียดเท่ากับรุ่น Infinix Hot 20S ที่ต่างคือระบบประมวลผลของทาง Infinix Zero 5G 2023 จะดีกว่านิดหน่อยไม่เยอะ
ใส่ออโต้โฟกัสมาให้ด้วยต่อมา เลนส์ Depth (วัดระยะชัดลึก) ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล สุดท้าย เลนส์มาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล จุดพิจารณา คือน่าจะใส่เลนส์อัลตร้าไวด์มาให้มากกว่าเพราะตัวเลนฺส์มาโครที่ใส่ให้มาไม่น่าจะค่อยได้ใช้งานสักเท่าไหร่ตามความเป็นจริง ซึ่งทำให้ได้เห็นว่า Infinix Zero 5G 2023 ไม่ค่อยเน้นในส่วนกล้องสักเท่าไหร่
ประสิทธิภาพการทำงาน
ZERO 5G 2023 เป็นมือถือรุ่นที่อัพเกรดด้านประสิทธิภาพเปลี่ยนชิปเซตตัวแรงเกินต้านคือ MediaTek Dimensity 1080 ประมวลผลด้วย Arm Cortex-A78 ผลิตบนเทคโนโลยี 6 นาโนเมตร ความเร็วในการบูสต์ 2.4GHz ทำงานคู่กับชิปกราฟฟิก Arm Cortex-A57 เสริมประสิทธิภาพให้ทำงานได้เร็วและเสถียรมากยิ่งขึ้นไปอีกระดับ จะเอาไปเล่นเกมหรือดูวีดีโอชมความบันเทิงทำงานได้ดีไม่มีกระตุก
และให้แรมมาที่ 8GB เสริมแรมอีก 5GB ด้วยเทคโนโลยียืมแรม Extended RAM ตัวเก็บข้อมูลให้พื้นที่ความทรงจำที่ 256GB ใครที่ไม่พอสามารถเพิ่มได้ด้วย MicroSD Card การทำงานทั้งหมดนี้จะรันอยุ่บนระบบปฏิบัติการ XOS 12 ทำงานบน Android 12 ส่วนด้านแบตเตอรี่ให้ความจุมาขนาด 5,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว 33W ซึ่งจะช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม จะใช้เวลาเป็นอันสั้น
ผลการทดสอบในการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ไปถึง 100% จะใช้เวลาในการชาร์จที่ 88 นาที ถ้าใช้เวลาเพียง 10 นาทีจะได้เปอร์เซ็นแบตเตอรี่ที่ 18% ถ้าชาร์จใช้เวลา 32 นาทีจะได้แบตไป 50% การเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi6 (2.4G+5GHz) รองรับ Bluetooth 5.1 และพอร์ตเป็นแบบ USB Type-C ระบบความปลอดภัยจะใช้ตัวปลดล็อคเป็นสแกนลายนิ้วมือด้านข้างของตัวเครื่อง
บทสรุปคือ Zero 5G 2023 เป็นสมาร์ทโฟนจากค่าย Infinix ที่ค่อนข้างน่าสนใจอีกตัวหนึ่งที่ใช้งบประมาณไม่เกินหนึ่งหมื่นแต่ได้สเปกมาดีใครที่ต้องการมือถือเอามาเล่นเกม รุ่นนี้ก็ตอบโจทย์อยู่เช่นกันไม่ว่าจะให้หน้าจอ รีเฟรชเรท 120Hz แถมให้ชิปตัวแรง เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับสายเกมแต่ถ้าเรื่องกล้องก็ไม่ค่อยน่าสนใจสักเท่าไหร่
สรุปคุณสมบัติ Infinix Zero 5G 2023
| ระบบปฏิบัติการ | XOS 12 รันบนพื้นฐาน Android 12 |
| ขนาดเครื่อง | 168.73×76.53×8.9 มิลลิเมตร |
| น้ำหนัก | 201 กรัม |
| สีเครื่อง | SUBMARINER BLACKCORAL ORANGEPEARLY WHITE |
| จอแสดงผล | 6.78 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080) อัตรารีเฟรชเรท 120Hz, อัตราค่าสัมผัส 240Hz |
| ชิปประมวลผล | MediaTek Dimensity 1080 ความเร็ว 2.6GHz |
| ชิปกราฟฟิก | Mali-G68 MC4 |
| Ram | 8GB (+ 5GB Extended RAM) |
| Storage | 256GB UFS 2.2 (รองรับ MicroSD upได้สูงสุด 256GB) |
| กล้องหน้า | ความละเอียด 16MP ค่ารูรับแสง f/2.0 |
| กล้องหลัง | เลนส์หลักความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.6, AFเลนส์ Depth ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP รูรับแสง f/2.4 |
| เชื่อมต่อ | Wi-Fi 6 (2.4G+5GHz)มาตรฐาน 802.11 a/b/g/n/acBluetooth 5.25G, 4G LTE |
| พอร์ต | USB Type-CUSB OTGช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร |
| ปลดล็อค | สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่องสแกนใบหน้า |
| แบตเตอรี่ | 5000mAh รองรับระบบชาร์จเร็วสุงสุด Super-Fast Charge 33W |
| ราคา | 9,499 บาท |
| ช่องทางจัดซื้อ | Shopee, Lazada |
ที่มาข้อมูล