กล้องถ่ายรูป มีกี่ประเภท พร้อมแนะนำกล้องยอดนิยมของแต่ละประเภท
เชื่อว่าหลายคนมีความสงสัยว่ากล้องถ่ายรูปที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบันทำไมมีหลายแบบ หลายขนาด หลายชนิด บางตัวมีขนาดใหญ่ บางตัวมีขนาดเท่าฝ่ามือ หรือบางตัวพอถ่ายแล้วก็มีฟิล์มออกมาเป็นรูปถ่ายให้เราได้เลยทันที ซึ่งชนิดของกล้องนั้นก็แบ่งตามการใช้งานที่แตกต่างและเหมาะสม ก่อนเราจะทำการเลือกซื้อหรือใช้กล้องสักตัวเรามาทำความรู้จักถึงชนิดของกล้องกันก่อน กล้องถ่ายรูปนั้นสามารถแบ่งเป็น 6 ประเภท ดังนี้
1. กล้อง Compact

มากันที่อันดับแรกกล้องชนิดนี้เป็นกล้องดิจิตอลขนาดเล็ก ตัวกล้องมีจุดเด่นตรงที่ขนาดเล็ก(บางยี่ห้อ บางรุ่นมีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ) น้ำหนักเบา พกพาสะดวก และที่สำคัญกล้องชนิดนี้เป็นกล้องที่มีราคาถูกที่สุด ราคาเริ่มต้นอยู่ที่หลักพันบาทเท่านั้นเอง แต่ข้อเสียคือตัวกล้องไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ แต่มีทั้งเลนส์ฟิกซ์และเลนส์ซูม ในบางยี่ห้อ บางรุ่นที่ซูมได้จะมีการซูม 2 แบบคือ Optical Zoom (ซูมที่เลนส์จริง ๆ) และ Digital Zoom (ถ้าเราใช้ Optical zoom จนสุดก็จะกลายเป็น digital zoom ต่อ แต่ถ้าซูมมาก ๆ ภาพจะไม่ค่อยละเอียด) กล้องชนิดนี้ส่วนใหญ่จะใช้ censor ที่มีขนาดเล็กกว่ากล้อง Mirroless (APS-C) แต่ขนาดจะใหญ่กว่ากล้องใน Smartphone โดยรวมแล้วคุณภาพของไฟล์ภาพจะดีและละเอียดกว่าภาพที่ถ่ายจากมือถือ ในกรณีที่ต้องการคุณภาพของรูปที่คมชัดขึ้นหรือใช้ฟังก์ชันอื่น ๆ เพิ่มเติมก็มีให้เลือกใช้ในราคาที่สูงขึ้นตามสเปก
กล้องชนิดนี้เหมาะกับการใช้งานถ่ายรูปทั่ว ๆ ไป ไม่เน้นรายละเอียดเท่าไร เพราะคุณภาพไฟล์รูปที่ได้ก็ไม่ดี ไม่คมชัดเท่ากล้องประเภทอื่น อย่าง DSLR และ กล้องมิเรอร์เรส (Mirrorless) โดยจะเหมาะกับผู้ที่ใช้งานตั้งแต่ผู้เริ่มต้นถ่ายภาพหรือใช้ในการถ่ายรูปทั่วไปเท่านั้น และเน้นไปที่การพกพาไปใช้งานในโอกาสต่าง ๆ มากกว่า
ตัวอย่างภาพที่ถ่ายจากกล้องคอมแพค


มาดูเรื่องข้อดี – ข้อเสียกันบ้าง
ข้อดี
– ราคาถูก
– มีขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก
– ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าเยอะ
– ตัวกล้องเปิดใช้งานได้เร็วทำให้สามารถถ่ายภาพได้รวดเร็ว
– บางรุ่นสามารถกันน้ำได้ และป้องกันแรงกระแทกได้
– บางยี่ห้อมีระบบ Wifi, Bluetooth สามารถส่งรูปไปที่สมาร์ทโฟนหรือส่งไป print ได้เลย
– ดูภาพจากกล้องที่ทำการถ่ายไว้ได้เลย
– ถ่าย VDO หรือภาพเคลื่อนไหวได้
ข้อเสีย
– คุณภาพของวัสดุที่ใช้ขึ้นอยู่กับราคากล้อง แต่ส่วนใหญ่ค่อนข้างบอบบาง ตามราคา
– ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพช่วงเวลากลางคืนหรือแสงน้อยไม่ค่อยดีนัก
– เปลี่ยนเลนส์ไม่ได้
รุ่นกล้อง Compact ที่แนะนำ Canon IXUS 190

รายละเอียด Canon IXUS 190
– เซ็นเซอร์ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
– 10x Optical Zoom (24 – 240mm)
– with 20x ZoomPlus
– Wi-Fi & NFC
– จอLCD 2.7-inch type Approx. 230,000 dots
– Imaging Processor DIGIC 4+
– Macro 1cm
– ขนาด 95.3 x 8 x 23.6mm
– น้ำหนัก 137g (4.83oz.) (including battery & memory card) / Approx. 122g (4.30oz.) (camera body only)
– รับประกัน 1 ปี
ราคา 6,649 บาท
สั่งซื้อได้ที่ : https://www.powerbuy.co.th
บทความที่เกี่ยวข้องกับ กล้องคอมแพค
กล้องดิจิตอลขนาดพกพา สำหรับนักเดินทาง Canon G7X Mark III
Sony A6000 กล้องดิจิตอล ภาพสวยงาม ถ่ายวิดีโอคมชัดระดับ Full HD
2. กล้อง DSLR-Like

หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูกับชื่อกล้องประเภทนี้ สำหรับกล้องชนิดนี้จะมีฟังก์ชันและการใช้งานคล้ายกับกล้อง compact แต่หน้าตาลักษณะภายนอกจะคล้ายกับกล้อง DSLR ดูผ่าน ๆ ก็เหมือนกล้อง DSLR จริง ๆ โดยกล้องประเภทนี้ไม่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ แต่มีเลนส์ที่ซูมได้เยอะกว่ากล้อง Compact และราคาก็สูงกว่าด้วย แม้จะมีคำว่า DSLR นำหน้าแต่ความเป็นจริงก็ยังเป็นกล้องคอมแพคอยู่ ส่วนเรื่องคุณภาพไม่ต่างจากตัวกล้องคอมแพคเลย กล้องชนิดนี้จึงเหมาะกับการใช้งานทั่วไปเหมือนกล้องคอมแพคเพียงแต่ซูมได้ดีกว่าแค่นั้นเอง
ตัวอย่างภาพจากกล้อง DSLR-Like


มาดูเรื่องข้อดี – ข้อเสียกันบ้าง
ข้อดี
– มีฟังก์ชันการใช้งานที่ปรับแต่งได้เยอะใกล้เคียง DSLR
– ซูมได้ไกลและดีกว่ากล้อง Compact
– ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องตั้งค่าเยอะ
– ตัวกล้องเปิดใช้งานได้เร็วทำให้สามารถถ่ายภาพได้รวดเร็ว
– บางยี่ห้อ บางรุ่นมี Wifi และ Bluetooth สามารถส่งรูปไปที่มือถือหรือส่งไป print ได้เลย
– ไม่ต้องพกอุปกรณ์เยอะเท่า DSLR
– กดดูภาพที่ทำการถ่ายไว้ได้เลย
– บันทึกภาพเคลื่อนไหวหรือ VDO ได้
– ราคาถูกกว่ากล้อง DSLR
ข้อเสีย
– ในบางรุ่นราคาค่อนข้างสูง
– เปลี่ยนเลนส์ไม่ได้
– คุณภาพไฟล์รูปเทียบเท่ากล้องคอมแพค
รุ่นกล้อง DSLR Like ที่แนะนำ Panasonic Lumix DMC-FZ300

รายละเอียด Panasonic Lumix DMC-FZ300
– เซ็นเซอร์ 1/2.3 inch (6.2mm x 4.6mm)
– Stabilization Optical
– ISO 100 To 6400
– Photo Formats Still Image: JPEG , RAW / Movies: MPEG-4, AVCHD
– Focus Points Contrast Detect (sensor) , Multi-area , Center , Selective single-point , Tracking , Single , Continuous , Touch , Face Detection , Live View
– มีแฟลชในตัว
– Shutter Speed 1/16000 To 60 Seconds
– ถ่ายต่อเนื่อง Continuous Shooting 12.0 fps
– มีช่องมองภาพ Viewfinder
– ขนาดจอ 3 นิ้ว
– Battery Lithium-ion battery & charger
– Storage Type SD/SDHC/SDXC card
– ขนาด 132 x 92 x 117 mm
– น้ำหนัก 691 กรัม
ราคา 17,990 บาท
สั่งซื้อได้ที่ : https://shopee.co.th
3. กล้อง DSLR

กล้องชนิดนี้มีชื่อเต็มว่า Digital Single Lens Reflex ได้รับการพัฒนามาจากกล้องฟิล์ม (SLR) ที่เห็นได้ชัดคือมีการใช้ระบบ auto focus ช่วยให้โฟกัสได้แม่นยำและเร็วขึ้น ซึ่งในกล้องฟิล์มต้องอาศัยการใช้แรงคนในการหมุนเลนส์เพื่อปรับให้ชัดที่สุด และบางทีก็ทำให้โฟกัสผิดจุดและทำให้ใช้เวลานานมากขึ้นด้วย หลักการทำงานของกล้องชนิดนี้คือ มีการใช้ censor ในการรับแสงแทนตัวฟิล์ม ใช้ชิพประมวลผลค่าสัญญาณจาก censor มาสร้างเป็นภาพนั่นเอง ซึ่งบน censor ก็จะมีเม็ด pixel อยู่ บอกถึงความละเอียดและขนาดของภาพ ในปัจจะบันความละเอียด 12 ล้านพิกเซลก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว
ในการใช้งานฟังก์ชันอื่น ๆ นั้น มีโหมด Auto ให้ใช้งานได้แบบง่ายดาย ไม่ต้องตั้งค่าก็สามารถถ่ายภาพได้อย่างคมชัด ตัวกล้องจะโฟกัสเร็วและแม่นยำ หรือจะใช้ฟังก์ชันปรับแบบ manual เพื่อตั้งค่าต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง เอาไว้ปรับตามความต้องการและเหมาะสม กล้อง DSLR นี้ส่วนมากตัวกล้องจะมีลักษณะที่ค่อนข้างใหญ่ มีสีดำ ซึ่งสีอื่นก็มีแต่น้อยและหายาก ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไร จุดเด่นคือสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ มีฟังก์ชันให้เลือกใช้งานเยอะ และถ่ายภาพได้คมชัดกว่ากล้องประเภทอื่น เหมาะกับการใช้งานทั่วไปจนถึงงานที่ต้องการความละเอียดสูง เป็นกล้องที่มีราคาแพงที่สุด
ตัวอย่างรูปที่ถ่ายจากกล้อง DSLR


มาดูเรื่องข้อดี – ข้อเสียกันบ้าง
ข้อดี
– สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้
– คุณภาพของภาพที่ละเอียดกว่ากล้องประเภทอื่น
– เก็บรายละเอียดมุมกว้างได้ดีกว่า
– สามารถกดดูภาพได้ทันที
– มีระบบ Auto focus ช่วยให้โฟกัสได้เร็วและแม่นยำ
– ตัวกล้องตอบสนองความเร็วชัตเตอร์ได้ดีกว่า
– สามารถลด Noise หรือรายละเอียดที่ไม่ได้ต้องการได้
– มีฟังก์ชั่น ลูกเล่นให้เลือกใช้เยอะ
– เหนือกว่ากล้องฟิล์มเพราะถ่ายแล้วลบได้ ไม่เปลืองฟิล์ม
– บางยี่ห้อ บางรุ่นมี Wifi หรือ Bluetooth ส่งรูปไปที่มือถือหรือส่งไป print ได้เลย
– ถ่ายวีดีโอหรือภาพเคลื่อนไหวได้ด้วย
ข้อเสีย
– ตัวกล้องมีขนาดใหญ่และหนัก
– อุปกรณ์เยอะ
– ราคาค่อนข้างสูง
– ใช้งานในระยะเวลานานและต่อเนื่องอาจจะเมื่อยได้ ต้องซื้อขาตั้งมาเสริม
รุ่นกล้อง DSLR ที่แนะนำ Canon EOS 4000D kit 18-55 mm.

รายละเอียด Canon EOS 4000D kit 18-55 mm.
– เซนเซอร์ APS-C ความละเอียด 18.1 ล้านพิกเซล
– 9 Af point
– ระบบประมวลผล Digic4+
– Wifi
– Iso 100-6400 (ขยายได้ถึง 12800)
– วีดิโอสูงสุด 1080p/30fps
– จอ LCD ขนาด2.7 นิ้ว ความละเอียด 320,000 จุด
– ช่องใส่ SD card 1 ช่อง
ราคา 19,900 บาท
สั่งซื้อได้ที่ : https://www.jd.co.th
4. กล้องมิเรอร์เรส (Mirrorless)

กล้องชนิดนี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดมาจากกล้อง DSLR แต่ถูกตัดกระจกสะท้อนภาพออก(ช่องมองภาพ) ทำให้ตัวกล้องเล็กลงและเบาขึ้นเพื่อให้สะดวกต่อการพกพา ก็เลยทำให้ตัวเลนส์ที่ใช้ก็มีขนาดที่เล็กลงตามไปด้วย พอตัดช่องมองภาพออกไปแล้วเลยจำเป็นต้องใช้จอ LCD หรือใช้ช่องมองภาพ Electronic viewfinder ในการมองเพื่อถ่ายภาพนั่นเอง ส่งผลให้แบตฯ หมดเร็ว ถ้าอยากเพิ่มความสะดวกมากขึ้นให้ซื้อแบตเตอรี่เพิ่มเพื่อใช้ในการสลับไปใช้ สลับชาร์จแบตฯ นั่นเอง ส่วนใหญ่จะใช้ censor แบบฟูลเฟรม(Full frame) แต่ก็ยังมี censor แบบไมโครโฟร์เธิร์ดส์ (Micro four thirds) ที่เป็นเซ็นเซอร์มีสัดส่วนของภาพอยู่ที่ 4:3 ตามปกติจะเป็น 3:2 ซึ่งข้อดีของเซ็นเซอร์แบบนี้คือสามารถใช้เลนส์ได้ทั้งหมดแม้จะต่างยี่ห้อกันก็ตาม
ดูจากภายนอกหน้าตาจะคล้าย ๆ กล้องคอมแพคแต่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ มีลูกเล่นที่เยอะกว่า และยังเป็นกล้องที่มีคุณภาพของภาพใกล้เคียงกับ DSLR มาก ๆ แต่แตกต่างกันในเรื่องของน้ำหนักและช่องมองภาพ เหมาะสำหรับมือใหม่ไปจนถึงระดับมืออาชีพเลยทีเดียว
ตัวอย่างรูปที่ถ่ายจากกล้องมิเรอร์เรส (Mirrorless)


มาดูเรื่องข้อดี – ข้อเสียกันบ้าง
ข้อดี
– เปลี่ยนเลนส์ได้
– รองรับเลนส์ได้หลายยี่ห้อ หลายรุ่น
– ขนาดเล็กและพกพาง่ายกว่า DSLR
– โฟกัสได้เร็วและแม่นยำ
– ดีไซน์สวย เป็นเอกลักษณ์
– คุณภาพใกล้เคียงกับกล้อง DSLR บางรุ่นดีกว่า DSLR ด้วย
– มีฟังก์ชันและลูกเล่นเยอะ
– ดูภาพที่ถ่ายไว้ได้ทันที
– ถ่ายวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหวได้
ข้อเสีย
– ราคาค่อนข้างสูง
– ไม่มีช่องมองภาพ
– กินแบตเตอรี่เยอะ
– การควบคุมและการตอบสนองของกล้องยังไม่ทันใจในบางฟังก์ชัน
– อุปกรณ์เฉพาะทางบางอย่างค่อนข้างหายาก
รุ่นกล้อง มิเรอร์เรส (Mirrorless) ที่แนะนำ Fujifilm X-S10

รายละเอียด Fujifilm X-S10
– เซนเซอร์ขนาด APS-C แบบ X-Trans CMOS 4 พร้อมความละเอียด 26 ล้านพิกเซล
– ชิพประมวลผล X-Processor 4
– จอแสดงผลแบบ Vari-angle รองรับระบบ Touchscreen ความละเอียด 1.04m dot
– ช่องมองภาพแบบ EVF ความละเอียด 2.36m dot
– ระบบกันสั่น 5 แกน ลดการสั่นไหวสูงสุดที่ 5 Stops
– Film Simulation รวม 18 แบบ
– รองรับการถ่าย Video 4K ระดับ DCI และ UHD สูงสุดที่ 30p
– ถ่าย Video Full HD สูงสุดที่ 240p
– มีระบบกันสั่นไฟฟ้า ( e.is ) เฉพาะใน Mode Video
– รองรับไฟล์ .mp4 และ .mov
– bitrate video สูงสุดที่ 200 Mbps
– รองรับรูปแบบไฟล์ Video 4:2:2 10-bit ผ่าน HDMI
– Port เชื่อมต่อ USB Type-C , HDMI , 3.5mm. microphone
ราคา 34,990 บาท
สั่งซื้อได้ที่ :https://www.bigcamera.co.th/
บทความที่เกี่ยวข้องกับ กล้อง Mirrorless
5. กล้องฟิล์ม

รู้หรือไม่ว่ากล้องดิจิตอลหลาย ๆ ประเภทถูกพัฒนามาจากกล้องฟิล์ม และกล้องฟิล์มเองก็ใช้เวลาเป็นร้อยปีในการวิวัฒนาการให้มีฟังก์ชันการใช้งานที่เยอะขึ้นเรื่อย ๆ ตัวกล้องชนิดนี้ก็มีการแบ่งประเภทออกไปได้อีก 4 แบบย่อย นั่นคือ Large fomat, Medium format, Rangefinder และ SLR (Single lens reflex) ซึ่งตัว SLR ก็เป็นที่นิยมอย่างมากทั้งอดีตและในปัจจุบัน เป็นเพราะว่าสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้และก็ถูกพัฒนาต่อมาให้เป็นกล้อง DSLR นั่นเอง หลักการทำงานของกล้องคือ เมื่อเรามองเข้าไปที่ช่องมองภาพ เราจะเห็นภาพผ่านเลนส์โดยกระจกจะสะท้อนภาพที่อยู่ในตัวกล้อง และเมื่อเรากดชัตเตอร์ กระจกจะยกขึ้น แสงจะวิ่งเข้าสู่ฟิล์มนั่นเอง ถ้าเราอยากเห็นภาพที่ถ่ายนั้นต้องนำไปล้างและอัดเป็นรูป หรือในปัจจุบันจะใช้วิธีนำฟิล์มที่ล้างแล้วไป scan และนำไปเปิดดูในคอมพิวเตอร์ได้เลย
ตัวอย่างรูปที่ถ่ายจากกล้องฟิล์ม


มาดูเรื่องข้อดี – ข้อเสียกันบ้าง
ข้อดี
– ราคาไม่แพง
– ให้ฟีลการถ่ายภาพแบบคลาสสิค
ข้อเสีย
– ไม่มีระบบ Auto ต้อง Manual เองทั้งหมด
– ไม่สามารถเห็นรูปที่ถ่ายได้ทันที
– ถ่ายภาพเสียแล้วเสียเลย
– เสียค่าฟิล์ม ค่าล้างฟิล์มและค่าอัดรูป
– ตัวฟิล์มมีอายุการใช้งานน้อย มีการเสื่อมสภาพ
– ฟังก์ชันการถ่ายภาพยังน้อย
รุ่นกล้องฟิล์ม ที่แนะนำ Pentax K1000 SE

รายละเอียด Pentax K1000 SE
– เป็นกล้องที่ครบครันมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่จำเป็นสำหรับการถ่ายแบบแมนนวล
– มีระบบวัดแสงแบบ TTL แสดงผล แบบเข็ม + –
– ความเร็วชัตเตอร์ที่มีให้เลือกตั้งแต่ 1/1000 – 1 วินาที
– ใช้เลนส์ Pentax K-mount
– แบตเตอรี่ LR44
– Focus Sceen เป็นแบบ Split Image
– เลนส์ SMC Pentax-M 50mm f2
ราคา : 8,490 บาท
สั่งซื้อได้ที่ : https://www.siamklongfilm.com
บทความที่เกี่ยวข้องกับ กล้องฟิล์ม
5 อันดับกล้องฟิล์มราคาถูก ปี 2021
6. กล้องโพราลอยด์ (Instant Film Camera)

รู้หรือไม่? ชื่อเรียกจริง ๆ ของกล้องประเภทนี้ไม่ได้ชื่อโพลารอยด์ แต่ชื่อ Instant Film Camera ที่เรียกโพลารอยด์นั้นเพราะในยุคนั้นมีกล้องยี่ห้อโพลารอยด์ที่เป็นกล้องประเภท Instant Film Camara ที่ขายดีมาก ๆ จึงทำให้คนรู้จักแต่ยี่ห้อนี้ เหมือนที่เราเรียกผงซักฟอกว่าแฟ้บและเรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปว่ามาม่านั่นเอง แม้ว่าในปัจจุบันเราจะมีทั้งกล้องคอมแพค กล้องดิจิตอล DSLR หรือแม้แต่กล้องในโทรศัพท์ Smartphone ที่สามารถถ่ายรูปได้รวดเร็วทันใจ ก็เลยพลอยทำให้กล้องโพราลอยด์ดูล้าสมัยและตกรุ่นไป แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ากล้องโพราลอยด์นี้กลับมาฮิตกันอีกครั้ง เพราะจุดเด่นของโพลารอยด์ที่ไม่มีกล้องไหนสามารถทำได้ ก็คือการที่ถ่ายรูปแล้วกล้องปริ๊นท์รูปให้เลยทันที และเสน่ห์ของกล้องโพราลอยด์คือความวินเทจ ความร่วมสมัย พอกล้องชนิดนี้กลับมาฮิตกันอีกครั้ง ก็เลยมีการพัฒนาให้มีฟังก์ชันที่เพิ่มมากขึ้นรวมถึงหน้าตาก็เปลี่ยนไปด้วยในบางยี่ห้อ
ตัวอย่างรูปที่ถ่ายจากกล้องโพราลอยด์ (Instant Film Camera)


มาดูเรื่องข้อดี – ข้อเสียกันบ้าง
ข้อดี
– ใช้งานง่าย มือใหม่ก็ใช้ได้เลย
– บางยี่ห้อมีให้เลือกตัวกล้องหลากหลายสี
– ถ่ายภาพแล้วสามารถปริ๊นท์เป็นรูปได้ทันที
– ราคาค่อนข้างถูก
– ตัวกล้องชนาดพอดี พกพาได้
– สนุกกับการถ่ายภาพได้หลากหลายแบบหลากหลายลายบนฟิล์ม
– มีฟิลเตอร์และอุปกรณ์ถ่ายให้เลือกเยอะ
– ให้ความรู้สึกคลาสสิค วินเทจ
ข้อเสีย
– รูปใบค่อนข้างเล็ก
– เสียค่าฟิล์มปริ๊นท์ภาพ
– ต้องคอยลุ้นว่ารูปที่ได้จะดีหรือเสีย
– รูปเดียว ใบเดียว ก็อปปี้ไม่ได้ (นอกจากจะถ่ายจากกล้องอื่นหรือสแกนแล้วปริ้นท์อีกที)
– การถ่ายภาพในที่มืดหรือแสงน้อยทำให้คุณภาพของรูปไม่ดีเท่าที่ควร
– ถ่ายรูปถ้าไม่ชอบ ไม่ถูกใจก็คือต้องทิ้งเลย
รุ่นกล้องโพราลอยด์ ที่แนะนำ Fujifilm instax mini 11 Instant Film Camera

รายละเอียดของ Fujifilm instax mini 11 Instant Film Camera
– เลนส์ 60 มม.
– ระยะโฟกัสใกล้สุด 0.5 เมตร และ 0.3 เมตรในโหมดเซลฟี่
– ความเร็วชัตเตอรื ½ – 1/250 วินาที
– พลังงานแบตเตอรี่ AA x2
– ขนาด 107.6 x 121.2 x 67.3 มม.
– น้ำหนัก 293 กรัม ไม่รวมแบตเตอรี่ สายสะพายและฟิล์ม
– ชนิดของฟิล์ม Fujifilm Instax Mini
ราคา : 2,290 บาท
สั่งซื้อได้ที่ : https://www.bigcamera.co.th
ดู 5 อันดับกล้องโพราลอยด์ น่าใช้ 2021 >> คลิก <<
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับประเภทของกล้องถ่ายรูปทั้ง 6 ประเภท จะเห็นได้ว่าแต่ละรุ่นก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ถ้าอยากได้กล้องแบบพกพาได้ ไม่เน้นเรื่องการแต่งรูปมากนักก็ต้องเป็นกล้องคอมแพค ถ้าอยากได้แบบแต่งภาพได้ มีลูกเล่นเยอะก็ต้องเป็นกล้องกล้องมิเรอร์เรส (Mirrorless) ขยับมาที่กล้องระดับมือโปรหรือมืออาชีพก็จะเป็นกล้อง DLSR หรือ DSLR-Like ซึ่งบางรุ่นสามารถอัดวีดีโอแบบ 4K ได้ด้วย ส่วนสายวินเทจ ติสท์ ๆ หน่อยก็จะเป็นกล้องโพราลอยด์และกล้องฟิล์ม ซึ่งรุ่นที่เราได้มีการแนะนำไปในแต่ละประเภทนั้นก็จะเป็นยี่ห้อหรือแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น Canon, Panasonic Lumix, Fuji film และ Pentex ซึ่งทุกรุ่นที่แนะนำไปนั้นมีคุณสมบัติในการถ่ายภาพและคุ้มค่าตามประเภทของกล้องนั้น ๆ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ช่วยถ่ายภาพและถ่ายวีดีโอ เช่น ขาตั้งกล้อง ไม้กันสั่น ไฟ ฟิลเตอร์ต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ภาพหรือวีดีโอของเรานั้นออกมาดีเหมือนช่างภาพระดับมืออาชีพ
หลายคนมีคำตอบในใจแล้วว่าจะซื้อกล้องแบบไหนดี แต่การเลือกซื้อกล้องสำหรับมือใหม่หรือมือสมัครเล่นนั้น อันที่จริงแล้วไม่ต้องมีราคาแพง ไม่ต้องเป็นกล้องเทพหรือกล้องโปรเสมอไป อาจจะซื้อกล้องดี ๆ สักตัวแล้วขยับไปเป็นรุ่นที่โปรขึ้น หรือถ้าสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ก็ลองซื้อเลนส์และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ มาใช้เพื่อเก็บประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ เมื่อคุณมีประสบการณ์และทักษะที่เพิ่มขึ้นจึงพัฒนาไปจับกล้องเทพหรือกล้องโปรก็ยังไม่สาย และการฝึกถ่ายรูปเป็นประจำก็จะช่วยเพิ่มทักษะให้ดียิ่งขึ้น ทีนี้ไม่ว่าจะใช้กล้องประเภทไหนเราก็จะสามารถถ่ายออกมาได้สวยงามได้ทั้งหมดเลย
ข้อมูลเครดิต : https://bestreview.asia
https://ta-panda.com
https://www.photographyblog.com/
https://www.panasonic.com
https://www.photoschoolthailand.com
บทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง
Panasonic Lumix DMC-GF9 กล้องถ่ายรูปสีสันสวยงาม น่ารักฟรุ้งฟริ้ง
กล้องถ่ายรูปสายเซลฟี่ ที่ไม่ควรพลาด FUJIFILM X-A10
กล้องถ่ายรูปขวัญใจวัยรุ่น FujiFlim X-A5 Kit 15-45 mm
กล้องรูปทรงสวยงามทันสมัยน่าใช้ ฟังก์ชั่นครบครัน Olympus Camera E-PL9
5 อันดับ สายคล้องกล้อง ปี 2021
5 อันดับกล้องฟรุ้งฟริ้ง ปี 2021